เลื่อย ทำไมติดไม้บ่อย? วิธีแก้ปัญหาแบบช่างมืออาชีพ

เลื่อย

ใครที่เคยใช้ เลื่อย ไม่ว่าจะเป็น เลื่อยมือ หรือ เลื่อยไฟฟ้า ต้องเคยเจอกับปัญหาเหล่านี้อย่างแน่นอนครับ กำลังเลื่อยอยู่ดี ๆ ฟันเลื่อยก็ดัน “ติดไม้” ซะอย่างนั้น ต้องออกแรงดึง ต้องแกว่งไปมา บางทีไม้ยังบี้หรือรอยตัดเบี้ยวไปเลย ฟังดูน่าหงุดหงิดใช่ไหมครับ? เราเองก็เคยเจอครับ เรียกว่าบางทีแทนที่จะเสร็จไวๆ กลับกลายเป็นเสียเวลาเพิ่มเข้าไปอีก น่าหงุดหงิดมาก!

ปัญหานี้มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือแม้แต่ช่างที่มีประสบการณ์ ก็หนีไม่พ้น เพียงแต่ช่างมืออาชีพเขาจะมีวิธีสังเกต และแก้ไขที่ทำให้ไม่เสียจังหวะมากนัก นี่แหละครับที่เราจะมาลองถอดบทเรียนกัน ว่ามันเกิดจากอะไร? และเราจะมีวิธีแก้ยังไงให้ เลื่อย ทำงานลื่น ๆ เหมือนช่างมืออาชีพยังไง

ทำไม เลื่อย ถึงติดไม้?

จริง ๆ แล้วปัญหา เลื่อย ติดไม้มันไม่ได้มีคำตอบเดียวครับ บางทีเราเผลอไปโทษฟัน เลื่อย อย่างเดียว ทั้งที่ความจริงมันมีปัจจัยหลายๆอย่างมารวมกัน ทั้งสภาพไม้ที่ชื้นเกินไป วิธีการ เลื่อย ของเรา หรือแม้กระทั่งการเลือกใบเลื่อยที่ไม่เหมาะกับงาน มันก็มีผลเหมือนกัน เวลาจะหาสาเหตุจริง ๆ เลยต้องค่อย ๆ ไล่เช็กทีละจุด เหมือนเวลาเจอปัญหารถเสีย แล้วเราต้องไล่ดูว่ามันเกิดจากน้ำมันหมด แบตอ่อน หรือเครื่องยนต์มีปัญหา
พูดง่าย ๆ ก็คืออย่าเพิ่งรีบด่วนสรุปว่า เลื่อย ไม่คมอย่างเดียวครับ ลองสังเกตหลาย ๆ อย่างประกอบกัน จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด เช่น ถ้าไม้ชื้นเกินไปก็อาจต้องตากก่อน เลื่อย ถ้าท่าเลื่อยยังไม่ตรงก็ต้องฝึกมือให้มั่นคง หรือถ้าใบเลื่อยไม่เหมาะกับงานก็เปลี่ยนเป็นแบบที่ถูกต้อง เท่านี้ปัญหา เลื่อย ติดไม้ก็จะเบาลงไปเยอะเลยครับ

1. ฟันเลื่อยไม่คม

ฟันเลื่อยที่ผ่านการใช้งานมานานหรือเลื่อยไม้แข็ง ๆ บ่อย ๆ จะทื่อจนกัดไม้ไม่เข้า ผลคือผู้ใช้ต้องออกแรงกดเพิ่ม กดมากเกินไปก็ยิ่งทำให้ใบเลื่อยฝังแน่นเข้าไปในเนื้อไม้ ผลสุดท้ายฟันเลื่อยก็ติดขยับยาก เหมือนเลื่อยโดนล็อกไว้แบบนั้นเลย บางครั้งถ้าใบเลื่อยทื่อมาก ๆ ถึงขั้นทำให้ผิวไม้รอบ ๆ แตกหรือไหม้เล็ก ๆ ได้ด้วย

2. ร่องเลื่อยแคบเกินไป

เวลาที่เราตัดไม้ ฟันเลื่อยจะกรีดไม้ให้เป็นร่อง (Kerf) ถ้าใบเลื่อยหนาไม่พอ หรือฟันเลื่อยไม่ได้มีการ “เซ็ตฟัน” ให้กางออกเล็กน้อย ร่องที่ตัดก็จะพอดีกับใบเลื่อยเกินไป ส่งผลให้ไม้บีบร่องกลับมาหนีบใบเลื่อย ทำให้เลื่อยติดง่าย ยิ่งถ้าเป็นไม้แผ่นใหญ่หรือไม้ที่มีแรงดันภายในสูง ปัญหานี้ยิ่งชัด บางครั้งจะได้ยินเสียงไม้ดีดเบา ๆ แล้วใบเลื่อยก็ถูกบีบจนขยับไม่ออกทันที ต้องหยุดงานกลางคันเพื่อดึงออกมา ซึ่งเสียเวลาและเสี่ยงทำให้ร่องเลื่อยเสียรูปด้วย

3. เนื้อไม้บิดหรือหดตัว

ไม้บางชนิด โดยเฉพาะไม้เนื้ออ่อนหรือไม้ที่ยังไม่แห้งสนิท จะมีแรงดันภายในสูง เวลาถูกตัด ร่องที่แยกออกจะหุบกลับมาเองจนบีบใบเลื่อยติด ปัญหานี้มักเจอเวลาเลื่อยไม้ที่เพิ่งตัดใหม่หรือยังมีความชื้นอยู่เยอะ บางครั้งเสียงดีดเบา ๆ ของไม้คือสัญญาณว่าร่องกำลังจะหุบ ถ้าไม่ระวัง ใบเลื่อยอาจติดแน่นจนดึงออกยาก ทำให้เสียแรงและเสียเวลาไปมากทีเดียว

4. เทคนิคการเลื่อยไม่ถูกต้อง

บางครั้งไม่ใช่ เลื่อย หรือไม้ที่ผิด แต่เป็นวิธีใช้ของเราเอง เช่น กดแรงเกินไปจนใบเลื่อยฝังลึกเกินจำเป็น ดึงเลื่อยไม่ตรงองศาเลยทำให้ร่องเอียง หรือเลื่อยไม่ต่อเนื่องทำให้แรงสะดุด สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เลื่อยฝืดและติดไม้ได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ที่ยังไม่ชินกับจังหวะ บอกเลยว่าเจอปัญหานี้แน่นอนครับ
เลื่อย

วิธีแก้ปัญหาแบบช่างมืออาชีพ

แล้วช่างไม้เขามีวิธีแก้ยังไงบ้าง? ลองเอามาแชร์กันครับ ผมจะเล่าให้ฟังแบบเป็นกันเองเหมือนนั่งคุยกับเพื่อนที่โต๊ะทำงานไม้เลย

1. ลับฟันเลื่อยให้คมอยู่เสมอ

อย่ามองข้ามการดูแลพื้นฐานเลยครับ ฟันเลื่อยที่คมจะตัดไม้ได้เนียนโดยไม่ต้องออกแรงกดเยอะ ใช้แล้วรู้สึกสบายมือกว่าเยอะ ถ้าเป็นเลื่อยมือสามารถใช้ตะไบเล็ก ๆ ลับเองได้ ลับเสร็จใหม่ ๆ จะเห็นเลยว่าเลื่อยลื่นกว่าเดิมแบบรู้สึกได้ทันที แต่ถ้าเป็นใบเลื่อยวงเดือนหรือเลื่อยสายพาน แนะนำให้ส่งร้านลับใบโดยเฉพาะครับ เพราะมีเครื่องมือและความชำนาญมากกว่า จะได้ไม่เสี่ยงทำให้ใบเลื่อยเสียรูป แถมได้งานคม ๆ กลับมาใช้งานต่อ

2. ตรวจสอบการ “เซ็ตฟัน”

เลื่อยมือที่ดี ฟันจะถูกดัดออกซ้าย-ขวาเล็กน้อย เพื่อให้ร่องตัดกว้างกว่าใบเลื่อย วิธีนี้เขาเรียกว่า “เซ็ตฟัน” ครับ ถ้าเลื่อยของคุณเริ่มติดไม้บ่อย ๆ ลองเช็กดูก่อนว่าฟันยังเซ็ตดีอยู่ไหม เพราะบางทีเราใช้ไปนาน ๆ ฟันจะค่อย ๆ หุบเข้ามาเองจนร่องแคบเกินไป ถ้าเจอแบบนี้ก็มีสองทางเลือก คือปรับเซ็ตฟันใหม่ด้วยคีมเซ็ตฟัน หรือถ้าไม่สะดวกก็เปลี่ยนใบใหม่ไปเลย แบบนี้จะช่วยให้เลื่อยกลับมาตัดได้ลื่นเหมือนเดิม

3. ใช้วิธี “กันร่องบีบ”

เวลาตัดไม้แผ่นใหญ่หรือไม้ที่มีโอกาสหุบร่อง ช่างมักจะใช้วิธีตอกเว้าไม้เล็ก ๆ หรือใช้ไขควงปากแบนแหย่เข้าไปในร่องตัด ช่วยกันไม่ให้ไม้บีบร่องกลับมา เป็นเทคนิคง่าย ๆ แต่ได้ผล แถมยังทำให้เราตัดต่อได้สบายใจ ไม่ต้องคอยลุ้นว่า เลื่อย จะติดอีกหรือเปล่า เหมือนมีตัวช่วยเล็ก ๆ มาคอยรับภาระแทนเราเลยครับ

4. เลื่อย ด้วยแรงที่สม่ำเสมอ

อย่ากดแรงเกินไป ปล่อยให้ฟันเลื่อยทำงานเอง ดึง-ดันให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ และรักษาองศาให้ตรง นอกจากจะช่วยไม่ให้ เลื่อย ติดไม้แล้ว ยังทำให้งานออกมาเรียบและสวยกว่าอีกด้วย เวลาลง เลื่อย ก็ลองนึกเหมือนกำลังขีดเส้นด้วยดินสอครับ ค่อย ๆ ลากไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ แบบนี้ทั้งไม่เมื่อย และได้งานที่เนียนกว่าเยอะเชื่อเราเถอะ!

5. ใช้ผงเทียนไข หรือน้ำมันหล่อลื่น

นี่เป็นทริคเล็ก ๆ ที่ช่างหลายคนใช้กันครับ แค่เอาเทียนไขถูตามใบเลื่อย หรือน้ำมันเครื่องบาง ๆ ก็ช่วยให้ใบเลื่อยลื่นขึ้น ลดแรงเสียดทาน ทำให้ เลื่อย ไม่ติดไม้ได้เยอะเลย แบบง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง เวลาได้ลองเองครั้งแรกจะรู้สึกเลยว่า เลื่อย เดินลื่นกว่าเดิมเยอะเลยแหละ ไม่ต้องออกแรงกดมากเหมื่อก่อน
เลื่อย
  • เพื่อนช่างของเราเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาตัดไม้อัด เขามักจะถูเทียนไขที่ใบเลื่อยก่อนเสมอ ทำให้ เลื่อย ลื่นแบบเห็นได้ชัด เลื่อยได้เร็วขึ้น งานออกมาก็เนียนขึ้นด้วย

เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับมือใหม่

  • อย่าลืมตรวจสภาพฟันเลื่อยก่อนใช้งานทุกครั้ง เหมือนกับเราตรวจลมยางรถก่อนออกเดินทางนั่นแหละครับ ป้องกันปัญหาก่อนจะเกิด
  • ถ้ารู้ว่าไม้ชื้นหรือมีโอกาสหุบ ควรมีตัวช่วยกันร่องบีบ อย่างเว้าไม้เล็ก ๆ หรือไขควงปากแบน แค่เตรียมไว้ก็อุ่นใจ
  • อย่าฝืนถ้าเลื่อยเริ่มติด หยุดเช็กก่อนว่าปัญหามาจากอะไร บางทีการพักหายใจแป๊บเดียวช่วยให้เห็นสาเหตุที่แท้จริง
  • ฝึกเลื่อยให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ จะช่วยให้งานง่ายขึ้นเยอะ คิดซะว่าเหมือนการก้าวเดิน อย่ารีบร้อน แต่เดินไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ถึงจุดหมาย
เลื่อย ติดไม้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องปกติจนทำให้งานช้าและเหนื่อยเกินไป ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการดูแล เลื่อย ให้คม ตรวจสอบการเซ็ตฟัน ใช้เทคนิคกันร่องบีบ และใส่ใจวิธีเลื่อยให้ถูกต้อง






ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม