เคล็ดลับในการเลือก ปั๊มน้ำตก

การเลือก ปั๊มน้ำตก เป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาการเคลื่อนไหวของน้ำอย่างเหมาะสม การไหลเวียนของน้ำไม่ดีอาจส่งผลให้เกิดน้ำนิ่ง ตะไคร่น้ำ และยุง หากคุณมีปลา พืช หรือสิ่งมีชีวิตในน้ำอื่นๆ ในบ่อของคุณ สิ่งสำคัญคือคุณต้องรักษาน้ำให้แข็งแรงโดยการกระจายระดับออกซิเจนและสารอาหารอื่นๆให้เท่าๆ กัน

ปั๊มน้ำตก ได้รับการออกแบบให้จมอยู่ใต้น้ำได้อย่างเต็มที่ที่ส่วนที่ลึกที่สุดของบ่อ พวกเขาจะถูกวางไว้ในบ่อของคุณโดยตรงหรือหลุมของบ่อ ปั๊มน้ำตกมีขนาดตั้งแต่ 50 ถึง 5,000 แกลลอนต่อชั่วโมง (GPH) ติดตั้งง่ายและบางครั้งก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ประหยัดกว่าสำหรับบ่อขนาดเล็ก (น้ำไม่เกิน 1,000 แกลลอน) นอกจากนี้ยังเงียบและสามารถใช้ระบายน้ำในบ่อของคุณได้อีกด้วย หากคุณมีปลาหรือสิ่งมีชีวิตในน้ำอื่นๆ ในบ่อของคุณ คุณอาจต้องการพิจารณารุ่นที่ไม่ใช้น้ำมัน เนื่องจากมีอันตรายจากการที่ซีลปั๊มจะแตกและน้ำมันหล่อเย็นจะรั่วไหลลงไปในน้ำ

ปั๊มน้ำตกแบบจุ่มไม่ได้ เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้และประหยัดพลังงาน มีการติดตั้งในที่แห้งใกล้สระน้ำของคุณ ปั๊มน้ำบ่อแบบไม่ต้องแช่เหมาะสำหรับบ่อขนาดใหญ่ (มากกว่า 1,000 แกลลอน) โดยทั่วไปแล้วจะดังกว่าและซับซ้อนในการติดตั้งมากกว่าปั๊มจุ่ม แต่ก็ดูแลรักษาได้ง่ายกว่าเช่นกัน

วิธีกำหนดขนาด ปั๊มน้ำตก

ปั๊มน้ำตก มีขนาดตาม GPH ที่ระยะยกหรือสูงหนึ่งฟุต ปั๊มที่มีความจุขนาดใหญ่จะวัดจากแรงม้า (HP) ในการหาขนาดปั๊มที่คุณต้องการ ขั้นแรกให้คำนวณปริมาตรน้ำในบ่อ ความยาว ความกว้าง และความลึกควรแสดงเป็นฟุตสมการก็คือ ความยาวบ่อ x ความกว้างบ่อ x ความลึกเฉลี่ยของบ่อ x 7.5 = ปริมาตรเป็นแกลลอน

ปัจจัยการไหลเวียนของน้ำ

ขอแนะนำให้หมุนเวียนน้ำในบ่ออย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อชั่วโมง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีบ่อขนาด 500 แกลลอน คุณต้องใช้ปั๊มที่ทำงาน 500 GPH ที่ความสูงของการปล่อย นี่เป็นเรื่องจริงหากมีพายหรือน้ำตกด้วย หากบ่อของคุณมีตัวกรองแรงดัน คุณควรเปิดน้ำทุกๆ สองชั่วโมงโดยประมาณ ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบ่อขนาด 1,000 แกลลอน คุณต้องมีปั๊มสำหรับบ่อที่มีอัตราขั้นต่ำ 500 GPH

การคำนวณ ระดับความสูงของหัวสูงสุด และ ระยะยกสูงสุด

ความสูงของส่วนหัวแสดงถึงความสูงในแนวดิ่งที่ปั๊มยกน้ำขึ้นเหนือพื้นผิวของบ่อ ความสูงสูงสุดที่ปั๊มน้ำตกในบ่อสามารถยกน้ำขึ้นจากพื้นบ่อได้เรียกว่า “หัวน้ำสูงสุด” จากนั้นวัดการไหลในแนวนอน/แนวทแยงใดๆ ด้วยความยาว และเพิ่มหนึ่งฟุตไปยังส่วนหัวสูงสุดต่อระยะทางแนวนอน/แนวทแยง 10 ฟุต

ในการคำนวณ คุณจะต้องวัดระยะทางที่น้ำในน้ำพุต้องเดินทางจากตำแหน่งของปั๊มน้ำตกไปยังด้านบนของน้ำตกที่มีน้ำไหลออกมา จากนั้นคุณต้องเลือกปั๊มที่ยกได้สูงกว่าการวัดนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าระยะทางนั้นคือ 24 นิ้ว คุณจะต้องมีปั๊มน้ำพุที่ยกได้สูงอย่างน้อย 36 นิ้ว “การยกสูงสุด” คือความสูงสูงสุดที่ปั๊มจะยกน้ำได้

การเปิด ปั๊มน้ำตก

สิ่งสำคัญคือต้องระลึกไว้เสมอว่าปั๊มน้ำตกมีความยาวสายไฟต่างกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายไฟยาวพอที่จะลอดผ่านบ่อน้ำได้ และเสียบปลั๊กให้ห่างจากน้ำ รหัสไฟฟ้าบางรหัสระบุว่าเต้ารับสำหรับคุณลักษณะน้ำต้องห่างจากน้ำอย่างน้อย 6 ฟุต ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้เต้ารับที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร โดยมีตัวตัดวงจรไฟฟ้าขัดข้อง (GFCI) ที่จะปิดทันทีหากมีการโอเวอร์โหลด

การเลือก ปั๊มน้ำตก ที่เหมาะสม

สิ่งสำคัญคือต้องใช้ขนาดท่อที่ถูกต้อง เนื่องจากมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการยกสูงสุดของปั๊มบ่อเลี้ยง หากคุณใช้ท่อขนาดเล็กกว่าที่กำหนด คุณจะจำกัดแรงยกสูงสุดของปั๊มและปริมาณน้ำที่หมุนเวียน

เลือก ปั๊มน้ำตก ให้เหมาะสม สำหรับบ่อน้ำของคุณนั้นจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและหาข้อมูลล่วงหน้าเล็กน้อย การทำอย่างนี้จะช่วยให้น้ำของคุณสะอาดและมีสุขภาพดี อีกทั้งปั๊มของคุณยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

สามารถเลือก ปั๊มน้ำตก ได้ที่ iToolmart